ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นใครมีมือถือกระติกน้ำของโมโตโรล่า เครื่องเกือบแสน จะเท่มากๆ ซึ่งแน่นอนก็จะมีได้อยู่กับนักธุรกิจกันเป็นหลัก เรายังส่งจดหมาย โทรศัพท์บ้านยังเป็นสิ่งที่จำเป็น
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ โมโตโรล่า กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นมากๆ ทีมงานก็เริ่มมองหาทางที่จะขยายการใช้งานของโทรศัพท์มือถือ ให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากที่สุด โดยจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ต้นทุนการติดตั้งเสาสัญญาณ จะอยู่ที่เสาต้นละ ล้านกว่าบาท ยังไม่ร่วมค่าจิปาทะอื่นๆ ซึ่งยังไม่ร่วมค่าเครื่องโทรศัพท์กระติกน้ำที่มีต้นทุนที่สูงมากอีก แต่ทางออกยังมี ทางโมโตโรล่า ได้ตั้งบริษัทแยกออกมาชื่อว่า อิริเดียม (ธาตุเลขที่ 77 ในตารางธาตุ) โครงการที่จะปล่อยดาวเทียม 77 ดวงให้โคจรรอบโลก ซึ่งจะทำให้ราคาทุกอย่าง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกเท่ากันหมด ซึ่งทีมงานคำนวณเป็นที่เรียบร้อยว่า ถ้ามีคน 1 ล้านคน ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซื้อมือถือเครื่องละแสน ใช้บริการโดยมีค่าโทร นาทีละ 15 บาท โครงการนี้ก็จะทำกำไรได้ไม่ยาก แต่แล้ว เป็นที่รู้กันว่าโครงการนี้ล้มไม่เป็นท่า ทำให้นักลงทุนสูญเงินกว่า แสนล้านบาท
ทำไมเหรอครับ โครงการนี้ตกเป็นเหยื่อของ.... การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีนั่นเอง (Technology Innovation) ทำไมเหรอครับ เพราะว่าตอนที่ทางบริษัททำแผนธุรกิจ ทุกอย่างเขาวางแผนไว้อย่างดี โดยไม่มีการมองถึงการปรับเปลี่ยนแผน ตามสถานการณ์ ทุกอย่างถูกวางไว้ และเดินหน้าทำตามแผนอย่างเดียวเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ระหว่างที่บริษัทกำลังติดตั้ง ดาวเทียม ราคาของทุกอย่างลดลงอย่างรวดเร็ว แถมความเร็วของระบบเครือข่ายก็เร็วขึ้น อย่างรวดเร็ว โครงการนี้ยังติดตั้งไม่เสร็จเลย ก็ไปไม่รอดแล้ว
จริงๆ แล้วไม่ใช่โครงการนี้ โครงการเดียว แต่มีอีกหลายบริษัทในช่วงนั้นที่สูญเงินเพราะตามเทคโนโลยีไม่ทัน จากเหตุการณ์จึงมีหลายๆ คนมักจะเรียกกันว่า นี่คือ "Iridium Moment" และ Iridium Moment ก็เกิดขึ้นกับอีกหลายๆ บริษัท ไม่ว่าจะเป็น Kodak, Blockbuster ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง
Comentários