ทำไม 40% ของวัยรุ่นอเมริกา เลิกใช้ Facebook

ในปี 2004 Facebook เป็นเพียงแค่เวปไซต์ธรรมดาๆ แต่ไม่นานจากนั้นมีคนเข้าใช้ต่อเดือนถึง 2 พันล้านคน

มาถึงวันนี้ มีปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วคือ วัยรุ่นกว่า 40% ลบแอพ Facebook ออกจากเครื่อง โดยมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องความปลอดภัยข้อมูล เรื่องประเด็น สุขภาพจิต ซึ่งจริงๆไม่ใช่เพียง Facebook เท่านั้นแต่เริ่มขยายออกไปในส่วนที่เกี่ยวกับการท่อง โซเชียลอีกด้วย

ทำไมเหรอครับ

หลายๆคนเริ่มรู้สึก และเห็นถึงผลร้ายที่ตามมาจากการที่เราติดมือถือ ที่ตื่นมาสิ่งแรกที่ทำก็คือการเปิด Facebook มาดูว่าใครทำอะไรบ้าง หรือมีใครไลค์โพสต์เราบ้าง ซึ่งทำให้เราอยู่กับสิ่งรอบข้างน้อยลง อยู่กับปัจจุบันน้อยลง

มีผลการวิจัยเกี่ยวด้านสมองพบว่า เวลาเราท่องโลกโชเชียล ประสาทการรับรู้ที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดของการทำให้มนุษย์พิเศษเหนือสัตว์อื่นๆ คือส่วนประสาทที่ทำงานในส่วน Self Reflection (การพิจารณาตนเอง และการเข้าถึงคนรอบข้าง)​ที่จะทำให้เกิดการรับรู้ที่หลายๆคนเรียกว่า Empathy (การที่เราจะรับรู้ถึงความรู้สึก และเข้าใจผู้อื่น แนวเอาใจเขามาใส่ใจเรา) จะหยุดทำงาน ซึ่งทำให้การที่เราจะเข้าใจความรู้สึกของคนรอบข้างจะลดลง ซึ่งผลที่เราเห็นได้ชัดคือวัยรุ่นปัจจุบัน จะมีความาเห็นอกเห็นใจผู้อื่นลดลง การรับรู้ถึงความรู้สึกของคนอื่นน้อยลง สนใจตัวเองมากขึ้น และโกรธง่ายขึ้น

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ วีดีโอที่เด็กวัยรุ่น ที่อเมริกาถ่ายวีดีโอของคนที่กำลังจมน้ำด้วยความสนุกสนาน โดยไม่คิดจะเข้าไปช่วยเลย

ในบ้านเราก็จะเห็นว่าภาพการทะเลาะกันเนื่องมาจากปัญหาจราจร หรือเรื่องเล็กๆ มีมาให้เราเห็นกันเรื่อยๆ

แต่ข่าวดีก็คือหลายๆคน เริ่มเห็นถึงโทษดังกล่าง แต่เห็นว่าว่าการเล่นมือถือ ทำให้ปิดกั้นหลายๆอย่าง ปิดกั้นคนที่อยู่ใกล้ตัว คิดอะไรได้ช้าลง เป็นสิ่งที่ทำให้สมาธิสั้น และอีกมากมาย จึงเป็นเหตุที่ทำให้ปรากฏการณ์โบกมือพัก หรือลาจาก Facebook มากขึ้นเรื่อยๆ

แม้กระทั้งบริษัทอย่าง Google หรือ Apple ได้เริ่มเน้นในเรื่อง Digital Well-being (สุขภาพดิจิทัล) โดยการใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่นการเตือนบอก จำนวนชั่วโมงที่เราใช้มือถือ เพื่อให้เราบริหารเวลา และลดการใช้เวลาบนมือถือลง

ลองมาดูกันครับว่า เราจะบริหารจัดการเวลาใช้มือถือ หรือการท่องโลกโชเชียลกันอย่างไร ให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือต่างๆ ที่จะทำให้เราสามารถทำงาน ทำสิ่งต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพดีขึ้น เพื่อที่จะได้มีเวลากับคนรอบข้าง มีเวลาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกาย และออกกำลังสมองเพื่อมีสุขภาพจิตดีๆ และที่สำคัญเพื่อที่จะช่วยกันสร้างสังคมดีๆ ที่มีความเอื้ออาทรต่อกัน เข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้นนะครับ

อย่างที่เราตั้งใจให้คำว่า พลเมืองดี(จิทัล)​ คือพลเมืองที่ฉลาดใช้ดิจิทัล เพื่อมีชีวิต มีงาน และมีอนาคตที่ดี ในโลกดิจิทัลกันครับ

ขอบคุณ Coldfusion สำหรับข้อคิดดีๆ

ดูเพิ่มเติม แบบละเอียดเต็มๆได้ที่